เข้าใจความต้องการของตัวเอง (แบบมาสโลว์) Self Analysis (Maslow's Hierarchy of Needs)

เข้าใจความต้องการของตัวเอง (แบบมาสโลว์)
Self Analysis (Maslow's Hierarchy of Needs)


หลายๆคนคงเคยเป็นเหมือนกันใช่มั้ยค่ะ
ที่วันๆหนึ่งเราอยากนั่น นู่น นี่ มากมายไปหมด
ไม่ว่าจะเป็นอยากกินข้าว อยากมีรถ อยากมีบ้าน อยากมีแฟน อยากมีเงิน
หรือบางทีเราก็ไม่อยาก ไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากอ้วน ไม่อยากตื่นนอน

ความอยากหรือความต้องการ หรือความไม่อยากหรือความไม่ต้องการ
อยู่กับตัวเรามาตลอด ฉันเองก็เป็นค่ะ 
โดยเฉพาะตอนนี้ที่เป็นเอามากคือ "อยากทำธุรกิจของตัวเอง”
ตอนแรกๆฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องอยากอะไรมากมาย
จึงพยายามหาเวลาทำความเข้าใจกับความต้องการของตัวเองให้มากขึ้น
จะได้เข้าใจว่าทำไมต้องอยาก และทำไมไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่เสียที

เริ่มต้นจาก
1. พื้นฐานความเป็นฉัน
     ฉันเกิดในครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อเป็นราชการ แม่เป็นแม่ค้า พักอาศัยในอาคารพาณิชย์ที่เป็นของย่ายกให้พ่อ พ่อฉันมีรายได้ไม่มาก แม่ก็เหมือนกัน แต่ฉันโชคดีที่มีย่าและปู่ที่เก็บเงินเก่งและหาเงินเก่ง ฉันเลยได้รับอานิสงค์ความเป็นอยู่ที่ดี มีการศึกษาที่ดีจากท่านๆ
     ส่วนพ่อกับแม่ของฉัน ท่านเป็นคนใจบุญ ชอบพาฉันเข้าวัดเข้าวาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ตอนเด็กๆฉันจะไม่ค่อยชอบไป แต่ก็ถูกบังคับให้ไปด้วยอย่างสม่ำเสมอ ฉันจึงเป็นคนที่คุ้นเคยกับวัดและธรรมะไปโดยปริยาย
     ส่วนพ่อของฉัน เป็นคนง่ายๆ สบายๆ มากๆ เรียนเก่ง และขยันอ่านหนังสือ เรื่องพวกนี้ฉันได้พ่อมาเต็มๆ
     ส่วนเรื่องที่ฉันได้จากแม่มาก็อาทิ ความเป็นคนมุ่งมั่น ไม่ท้อแท้ต่อความยากลำบาก และความเป็นคนกตัญญู (แต่ฉันกตัญญูได้ไม่เท่าแม่ของฉันหรอก)
     สรุปประเด็นพื้นฐานในตัวของฉัน 
     สิ่งที่ฉันมี คือ ฉันเป็นคนเรียนเก่ง สมองดี (อ่านอะไรก็ออก) ชอบเรียนหนังสือ ชอบธรรมะ ชอบทำบุญ เป็นคนมีฐานะปานกลาง การศึกษาสูง มีบ้าน มีรถ (ที่ไม่ได้ซื้อเอง) มีสมบัติติดตัวนิดหน่อย เงินเก็บเล็กน้อย มีครอบครัวและญาติพี่น้อง มีร่างกายครบ 32 ส่วน โดยส่วนตัวแล้วฉันมองว่าชีวิตฉันเป็นคนที่โชคดีกว่าคนอื่นหลายๆคนมากแล้ว และฉันก็พอใจในสิ่งที่ฉันมีแล้วด้วย 
     แต่พอมามองดูถึงสิ่งที่ฉันไม่มี ก็คือ ฉันไม่มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน ฉันยังไม่มีหน้าที่การงานที่อยากทำ ฉันไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี ฉันยังไม่ได้เดินทางไปในหลายๆที่ที่อยากไป 

2.  เชื่อมโยงกับทฤษฎีความต้องการของมาสโลว์
     โดยในแต่ละวัน สิ่งที่ฉันสามารถตอบสนองความต้องการในขั้นที่ 1 ความต้องการทางด้านร่างกาย ขั้นที่ 2 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย และขั้นที่ 3 ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ ตามทฤษฎีความต้องการของมาสโลว์ได้เป็นอย่างไม่ยากอยู่แล้วด้วยพื้นฐานที่ความเป็นฉันที่มีมา ซึ่งฉันก็รู้สึกพอใจแล้วในปัจจุบัน และนี่คงเป็นหนึ่งสาเหตุในการที่ทำให้ฉันมีความต้องการที่มากขึ้นในการตอบสนองความต้องการในส่วนที่ฉันยังไม่มี 
     ตามทฤษฎีของมาสโลว์เมื่อความต้องการในเบื้องต้นได้รับการตอบสนองแล้ว คนเราจะมีความต้องการที่มากขึ้น และแสวงหาความต้องการในขั้นต่อไปมาเพิ่ม ซึ่งฉันก็เป็น ความต้องการของฉันในขั้นที่ 4 คือ ความต้องการการได้รับการยกย่องนับถือ โดยสามารถแบ่งออกเป็น ความต้องการนับถือตัวเอง และความต้องการได้รับการนับถือจากผู้อื่น) และขั้นที่ 5 ความต้องการที่จะเข้าใจประจักษ์ตนเองอย่างแท้จริง ซึ่งฉันบอกได้คำเดียวเลยว่า มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่ได้มีมาก่อน และต้องสร้างด้วยตัวของฉันเอง

3. บ่งบอกสิ่งที่ฉันเป็นในปัจจุบัน
     ฉันยอมรับเลยว่า ฉันอยากประสบความสำเร็จในชีวิต มันไม่ใช่แค่เรื่องของเงินทองที่มากมายจนไม่ต้องทำอะไร แต่มันหมายถึงการที่ฉันเป็นคนที่มีเป้าหมายในชีวิต และได้ลงมือทำมันจนได้รับการยอมรับจากตนเองและผู้อื่น และฉันสามารถพูดได้เต็มปากว่า “สิ่งที่ฉันได้มา คือสิ่งที่ฉันต้องการ และฉันได้มาด้วยตัวของฉันเอง ไม่ได้มีใครนำมาประเคนให้” ถึงแม้มันจะมาจากพื้นฐานหลายๆอย่างในตัวฉัน แต่อย่างน้อยมันเป็นสิ่งใหม่ๆในชีวิตที่ฉันได้ภาคภูมิใจ 
     ฉันคิดว่าหลายๆคนก็คงเป็นแบบฉัน มีความต้องการในแบบที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งก็ไม่ได้ผิดที่เราจะยอมรับว่า “เราเกิดมา เราก็ต้องการได้รับการยอมรับจากตนเองและผู้อื่น อย่างน้อยก็คนในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิด” 
     ซึ่งตอนนี้ไม่สำเร็จ ฉันก็เข้าใจ ว่าความต้องการในขั้นที่ 4 และขั้นที่ 5 ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้มา ซึ่งใครได้มาแล้ว ฉันก็ขอยินดีด้วย แต่ใครที่ฉันไม่ได้ก็ต้องพยายามกันต่อไป ฉันเองก็ต้องพยายามอย่างหนัก
     
     ต้องยอมรับว่าคนบางคนพื้นฐานชีวิตของเขาไม่ดีเท่าของฉัน แต่เขาก็มุ่งมั่นสามารถทำจนบรรลุความต้องการในขั้นนี้ไปได้ ต้องขอชื่นชมและเก็บเอาพวกเขาเหล่านั้นมาเป็นแรงบันดาลใจ ให้ตัวฉันได้พยายามสู้ต่อไป นั่นเอง

ปล. ความต้องการในขั้นที่ 4 และ ขั้นที่ 5 นี้ ไม่จำเป็นว่าต้องประสบความสำเร็จเป็นมหาเศรษฐีมีเงินมากมาย แต่ฉันขึ้นอยู่กับเป้าหมายในชีวิตและการใช้ชีวิตของแต่ละคน แต่ละสังคมมากกว่าว่าเขายอมรับและเชิดชูคนนั้นด้วยสิ่งใด

แด่มนุษย์ที่ยังมีความต้องการ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม