ไปดูมาแล้ว "สไนเปอร์มือพระกาฬ" American Sniper (Thai language only)
 |
| โปสเตอร์ภาพยนตร์ |
พูดถึงบุคคลในตำนานในยุคปัจจุบัน ดูเหมือนจะมีน้อยลงไปทุกที
ในยุคที่อะไรก็มาไวไปไว ในยุคที่ไม่มีสัตว์ประหลาดมาบุกโลก
และในยุคที่คนบางคนเป็นที่ถูกกล่าวถึงได้ไม่นานก็หายไป
แต่กับคนบางคนกับได้สร้างความตราตรึงจนได้กลายเป็นบุคคลในตำนานตัวจริง
 |
| คริส ไคล์ตัวจริง |
ใครจะรู้ว่ากว่าที่คนๆหนึ่งจะกลายมาเป็นบุคคลในตำนานเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง
วันนี้เรามาเปิดดูตำนานของบุคคลในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ในนิยายปรำปรา ที่บอกเล่าเรื่องราวก่อนที่เขาจะกลายเป็นตำนาน ในภาพยนตร์เรื่อง สไนเปอร์มือพระกาฬ
 |
| ฉากงานแต่งงานภายในภาพยนตร์ |
คริส ไคล์ เด็กชนบทของรัฐเทกซัส เติบโตมาพร้อมกับพ่อ แม่ และน้องชาย เขาเป็นคนที่ชอบลุย มุ่งมั่น และมีพรสวรรค์ด้านการยิงปืน เมื่อวันหนึ่งคริสในวัยหนุ่มกำลังดูโทรทัศน์กับน้องชายแล้วเห็นข่าวผู้ก่อการร้ายโจมตีเหล่าทหารของสหรัฐที่ไปประจำการรักษาความปลอดภัยในดินแดนตะวันออกกลาง เลือดรักชาติก็บอกเขาว่า เขาต้องไปเป็นทหาร จากนั้นเขาจึงสมัครทหารเข้าหน่วยซีล หน่วยทหารที่ได้ขึ้นชื่อว่าฝึกโหดที่สุด สะเทินน้ำ สะเทินบก จนในที่สุดเขาก็ผ่านมันมาได้ ระหว่างนั้นเขาก็ได้พบรักกับหญิงสาวในบาร์และได้แต่งงานจนมีพยานรัก ระหว่างที่เธอตั้งท้อง คริสก็ถูกส่งไปประจำการรบที่อิรัก โดยเขาคอยเป็นมือสไนเปอร์ซุ่มระวังให้กับเพื่อนทหารที่เดินลาดตะเวนอยู่เบื้องล่าง แต่ใครจะเลือกได้ว่างานแรกที่เขาต้องจัดการปลิดชีวิตคือเด็กชายและผู้หญิง
 |
| ฉากเด็กชายและสตรีชาวมุสลิมที่ถูกคริส ไคล์สังหาร |
ในเมืองที่ชาวเมืองถูกสั่งให้อพยพ เพื่อการลาดตะเวน หญิงสาวและเด็กหนุ่มชาวมุสลิมเดินออกมาภายนอกอาคาร คริสซึ่งสุ่มดูอยู่จากบนตึก ส่องกล้องเพื่อดูปฏิกิริยาของทั้ง 2 พบว่าหญิงสาวมอบระเบิดแสวงเครื่องใส่มือเด็กชายให้เดินไปที่รถถังที่ทหารสหรัฐอเมริกาที่กำลังลาดตะเวน ระหว่างที่เด็กเดินไปหารถถังเขาตัดสินใจเหนี่ยวไกลปืนตัดขั้วหัวใจเด็ก และอีกนัดต่อมาที่หญิงสาวที่กำลังวิ่งไปหยิบระเบิดและขว้างไปที่รถถังคันนั้น ทหารอเมริการอดพ้นจากความตายจำนวนมากจากฝีมือการยิงปืนสไนเปอร์ของคริส และจากนั้นก็มีอีกหลายศพที่เขาจัดการปลิดชีพก่อนที่พวกนั้นจะทันได้สังหารทหารของอเมริกาได้สำเร็จ
 |
| มือสไนเปอร์แชมป์โอลิมปิกฝั่งผู้ก่อการร้าย |
คริสกลายเป็นบุคคลที่ถูกชื่นชมจากการปฏิบัติงานที่ยอดเยี่ยม แต่เมื่อเขาพักรบกลับมาบ้านที่อเมริกา แฟนสาวของเขากลับพบว่าคริสกลับมาเพียงแต่ร่างกายจิตใจของเขายังคงอยู่ที่สนามรบโดยที่เขาเองก็ไม่ทันรู้ตัว และอาการเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อกลับมาจากสมรภูมิรบครั้งที่ 3 ครั้งนี้มีเพื่อนหน่วยซีลของเขาต้องเสียชีวิตจากมือสไนเปอร์ระดับโอลิมปิก ที่คอยจ้องเล่นงานพวกเขาอยู่ คริสตัดสินใจกลับสู่สมรภูมิอีกเป็นครั้งที่ 4 โดยที่ภรรยาของเขาก็ได้ยื่นคำขาดว่าขอให้หยุดการไปสงคราม แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดความมุ่งมั่นของคริสได้ เขากลับไปยังสมรภูมิรบและจัดการบุกรังผู้ก่อการร้ายตามแผนล่อมือสไนเปอร์ที่ได้วางไว้ และเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน และเขาสบโอกาสที่จะจัดการมือสไนเปอร์คนนั้นที่ระยะห่างถึง 21,000 หลา และเขาก็ทำได้สำเร็จแต่กระสุนนั้นกลับเป็นกระสุนเรียกแขก ผู้ก่อการร้ายได้ยิงเสียงปืนและพากันกรูเข้ามาบุกตึกที่พวกเขาแอบซ่อนตัวอยู่ เกิดการยิงกันจ้าระหวั่น และในที่สุดเขาก็สามารถรอดพ้นมัจจุราชได้อีกครั้ง
งานครั้งนี้เป็นผลงานใหญ่ของคริสในการฆ่ามือสไนเปอร์คนนั้น และเป็นการปิดฉากอาชีพทหารของเขาอย่างเป็นทางการ ตลอดอายุราชการทหารร่วม 10 ปี ปลิดชีพศัตรูมากกว่า 150 ศพ และเข้าสมรภูมิรบถึง 4 ครั้ง แม้เขาจะมีอาการคิดถึงสนามรบอยู่ แต่เขาก็ได้เขารับการบำบัดทหารผ่านศึก ครั้งหนึ่งคุณหมอถามเขาว่า "เขายังคิดถึงการฆ่าคนในสงครามอยู่หรือ" เขากลับตอบว่า "เขาไม่ได้คิดอย่างนั้น เขามั่นใจว่าทุกกระสุนของเขาได้สังหารคนเลวและศัตรู เขาเพียงแต่อยากปกป้องชีวิตของเพื่อนทหารที่ต้องไปอยู่ในดินแดนที่อันตราย เขารู้สึกว่ามันเป็นความรับผิดชอบของเขาที่ต้องปกป้องชีวิตของเพื่อนทหารทุกคน"
 |
| ทหารผ่านศึกชาวอเมริกันที่เป็นผู้สังหารคริส ไคล์ |
ฉากสุดท้ายที่ดูเหมือนจะสวยงาม เขากลับมาอยู่บ้านที่เทกซัสกับครอบครัวของเขา และคอยช่วยเหลือเพื่อนทหารผ่านศึกที่ท้อแท้ ในวันที่ทุกอย่างดูดีและลงตัววันนั้น ใครจะคิดว่าเขาต้องจากโลกไปด้วยกระสุนปืนจากเพื่อนทหารผ่านศึกในบ้านเกิดของเขาเอง
 |
| พิธีศพของคริส ไคล์ ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ |
ฉากจบของเรื่องนำมาจากวีดีโอที่บันทึกเหตุการณ์จริงๆในวันแห่ศพของคริสไปยังสุสาน ภาพบรรยากาศระหว่างการเดินทางที่ชาวอเมริกามายืนไว้อาลัยแก่การจากไปของฮีโร่ของพวกเขา บุคคลที่ช่วยปกป้องคนที่เขารักในตอนที่พวกเขาไปรบ บุคคลที่รับผิดชอบต่อชีวิตเพื่อนร่วมชาติ
 |
| ภาพการทำงานของทหารชาวอเมริกันที่ปฏิบัติหน้าที่ในดินแดนตะวันออกกลาง |
 |
| ภาพการทำงานของทหารชาวอเมริกันที่ปฏิบัติหน้าที่ในดินแดนตะวันออกกลาง |
ส่วนตัวฉันคิดว่าฮอลลีวู้ดมีความสามารถในการสร้างหนังเกี่ยวกับฮีโร่ โดยที่เราเองก็ไม่ได้มองถึงมุมของฝั่งที่ถูกกล่าวถึงมากเท่าไหร่นัก แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเมื่อตัดเรื่องต่างๆออกไป เราจะได้เห็นและเรียนรู้ถึงความสวยงามและมืดมนของบุคคลในตำนานอย่างคริส ไคล์ ที่เขาทำให้เราไม่มองเห็นว่าการฆ่าคนเป็นเรื่องเมามัน ถึงแม้มันจะดูโหดร้ายและรุนแรงมากกับการฆ่าเด็กและผู้หญิง แต่มันเป็นเรื่องที่เป็นเหตุเป็นผล และมองเห็นภาพของชีวิตทหารที่ไปประจำการต่างบ้านต่างเมืองเพื่อคำว่ามนุษยธรรม เพื่อนพ้อง และชาติ ถึงแม้อาจมีคำอื่นๆตามมาของคนอื่นก็ตาม
 |
| คริส ไคล์ (ตัวจริง) กับหนังสือที่เขาเขียน |
และนี่คือเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่อง สไนเปอร์มือพระกาฬ ที่ฉันได้รับชมมา ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากหนังสืออัตถชีวประวัติของเขาที่เขาเขียนขึ้นเอง ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ซึ่งเรามองเป็นความบันเทิงรูปแบบหนึ่งที่ความจริงเราเองก็ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นอย่างไร
ความคิดเห็น